เรื่องย่อ สี่แพร่ง
วันที่ออกฉาย: 25 เมษายน 2551 (ประเทศไทย)
ผู้กำกับ: บรรจง ปิสัญธนะกูล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ, ยงยุทธ ทองกองทุน, ปวีณ ภูริจิตปัญญา
ความยาว: 4 ชม. 0 นาที
ภาคต่อ: ห้าแพร่ง
บริษัทที่ผลิต: จีเอ็มเอ็ม ไท หับ
เหงา
ปิ่น (มณีรัตน์ คำอ้วน) สาวออฟฟิศที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้เธอต้องตกงานเธออาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่งกับมุก เพื่อนของเธอแต่ด้วยสาเหตุที่มุกไปเที่ยวเชียงใหม่กับแฟนทำให้เธอเหงามาก วันหนึ่งมี sms แปลกเข้ามาในมือถือของเธอว่า อยากรู้จัก ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่เมื่อความเหงามาถึงขั้นขีดสุดเธอจึงเริ่มติดต่อกับเขา เธอเล่าถึงอุบัติเหตุถึงเธอได้ประสบมา เขาเองก็ตอบกลับมาว่า ผมก็เหมือนอยู่คนเดียวมา 100 วันแล้วเขาขอรูปของเธอ ปิ่นจึงตอบกลับไปว่า งั้นแลกรูปคนละรูปกัน เธอถ่ายรูปตัวเองแล้วส่งไปให้เขาแต่รูปที่เขาส่งกลับเหมือนรูปที่เธอส่งไป ปิ่นจึง sms ตอบว่า อย่าขี้โกงสิ นี่มันรูปชั้นเอง sms ตอบกลับว่า ดูดีๆผมถ่ายคู่อยู่กับคุณ ปิ่นสังเกตในรูปนั้นมีเหงาขาวๆแปลกๆจึงทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา ในวันต่อไปปิ่นได้ไปเจอกระทู้หนึ่งเขียนเกี่ยวกับการทำบุญศพ 100 วันในกระทู้ได้เล่าสาเหตุการตายของผู้ตาย และได้มีการใส่โทรศัพท์ลงในโลงของผู้ตายอีกด้วยทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น มี sms เขียนมาว่า คุณกลัวอะไร ทำให้เธอกลัวมากขึ้นและคนแปลกหน้าในโทรศัพท์ก็บอกว่าจะมาหาเธอ ไฟค่อยๆดับมาเรื่อย และไฟในห้องของเธอก็ดับลง เธอใช้โทรศัพท์ส่องและร้องไห้ และในขณะนั้นเองได้มีวิญญาณของผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาและผลักเธอลงจากตึก 7 ชั้น ปิ่นเสียชีวิต หลังจากนั้นได้มีการเล่าย้อนเหตุการณ์ต่างๆว่า ปิ่นนั่งรถแท็กซี่กลับอพาร์ตเม้นท์แต่มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งอกหักวิ่งกระโดดให้รถชน คนขับควบคุมรถไม่ได้จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ ฉากสุดท้ายเป็นรูปถ่ายที่เธอแล้วมีวิญญาณของผู้ชายอยู่ในรูปนั้นด้วย
ยันต์สั่งตาย
กลุ่มเด็กวัยรุ่นเกเรกลุ่มหนึ่งไปรังแกลูกของหมอผี ทำให้เขาสร้างยันต์ที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย ซึ่งใครสบตากับยันต์นี้จะตายโดยทันที กลุ่มเด็กเกเรกลุ่มนั้นซึ่งประกอบด้วย เดี่ยว (วิทวัส สิงห์ลำพอง,พิ้งค์ (อภิญญา สกุลเจริญสุข) ฯลฯ ต้องคอยหนีจากความน่ากลัวเหล่านี้เด็กกลุ่มค่อยๆตายไปทีละคนเช่น ถูกเหล็กเสียบคอ ตู้แอร์หล่นใส่ ใบพัดแอร์กระเด็นเข้าหน้า และถูกไฟครอก เหลือแต่พิ้งค์อยู่คนเดียว เธอรีบไปหลบในรถยันต์นั้นวนเวียนอยู่รอบรถ และมีตำรวจเข้ามาช่วยและสอบปากคำเธอระหว่างมีคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิตในโรงพัก ทำให้เธอต้องอยู่เพียงลำพัง ยันต์นั้นกลับมาหาเธอ และพยายามให้เธอมองมันพิ้งค์ต่อสู้และ ควักลูกตาของตัวเองออกมาเพื่อที่จะได้ไม่สามารถมองเห็นยันต์ได้ และยันต์ก็บินหายไป
คนกลาง
วัยรุ่น 4 คนออกไปล่องแก่งกลางป่าแห่งหนึ่งในคืนหนึ่งพวกเขาเล่าเรื่องผีจน ชิน (อัฒรุต คงราศรี) ไม่กล้านอนริมจึงเถียงกับ เต๋อ (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์) และ เผือก (พงศธร จงวิลาส) จน เอ (กันตพัฒน์ สีดา) รำคาญเขาเลยพูดว่า ถ้าเกิดกูตายนะเว้ย กูจะกลับมาหลอกคนนอนกลางคนแรกเลย ในวันต่อมา ทั้ง 4 คนก็มาล่องแก่งแต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเรือได้ล่มลงกลางแก่งทำให้เต๋อจมน้ำ เอเข้าไปช่วยแต่ตนดันจมน้ำหายไปแทนเต๋อ คืนนั้นทั้ง 3 คนกังวลเรื่อง เอ มาก จนคืนนั้นไม่มีใครกล้านอนตรงกลางเลย ตอนหนึ่งซิปของเต๊นท์ได้รูดขึ้นว่าปรากฏเป็น เอ ทั้ง 3 คนดีใจมากแต่แปลกที่ว่าทั้งจมน้ำ และแอ่งมีโขดหินเยอะขนาดนั้น เอ กลับไม่มีแม้แต่แผลเลยมีแค่ความเปียกเท่านั้น คืนนั้นชินฝันว่า เอเป็นผีแต่ยังไม่รู้ตัวว่าตายแล้ว จึงสะดุ้งตื่นและไม่กล้าหลับอีกเลย เต๋อ กับ เอ ก็ได้เดินไปปัสสาวะด้วยกัน เต๋อ เห็นศพของ เอ ลอยอยู่จึงตกใจมาก จึงนำเรื่องทั้งหมดมาเล่าให้ ชิน และ เผือก เมื่อทั้ง 3 คนเห็นว่า เอ น่ากลายไปเป็นผีแล้วจึงตกใจและวิ่งหน้ายังไม่คิดชีวิต จนในที่สุดก็วิ่งมาเจอกัน เต๋อ ตะโกนเรียก เอ บอกว่าให้ไปสู่สุขคติ ทั้ง 3 คนเห็น เอ อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำ เอ จึงเล่าเหตุการณ์ความจริงให้ฟังว่าที่จริงแล้ว ทุกคนตายตั้งแต่ที่เรือล้มแล้ว แต่ตนพึ่งมาเห็นศพและโชว์ศพให้ทั้ง 3 คนดูพอเห็นศพทั้ง 3 คนก็ตกใจที่รู้ว่า ตนเองได้ตายไปแล้ว
เที่ยวบิน 224
พิม (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) แอร์โฮสเตสสาวได้รับโทรศัพท์จากแอร์ฯรุ่นพี่ว่ามี flight พิเศษของ เจ้าหญิงโซเฟีย (Nada Lesongan) และเธอต้องเดินทางไปคนเดียวเนื่องจาก ตุ้ย แอร์ฯที่เป็นเพื่อนกันต้องไปงานศพ เต๋อ (ในตอน คนกลาง) ซึ่งเป็นน้องชายและหาคนแทนไม่ได้แล้ว เมื่อพิมแนะนำตัวต่อเจ้าหญิง หล่อนไม่สนใจแต่พิมกลับเห็นแหวนเปอร์เซียที่เจ้าหญิงสวมอยู่เป็นแหวนเหมือนกับของเธอ เธอพยายามถอดแหวนออกแต่ถอดไม่ได้ เธอได้นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแต่เจ้าหญิงกลับดันให้แก้วกาแฟมาหกราดแขนของเธอ พิมโกรธมาก ถึงขนาดนั้นถอดรองเท้าส้นสูงมาคนกาแฟถ้วยใหม่ให้ (แต่เจ้าหญิงไม่ได้ดื่ม) เจ้าหญิงถามถึงแขนเธอและเห็นแหวนจึงให้เธอถอดออกมาให้ดู แต่คราวนี้พิมกลับถอดแหวนได้เจ้าหญิงได้บรรยายถึงการลงโทษของคนที่ลักลอบเป็นชู้กับสามีคนอื่นว่า จะถูกเปลื้องผ้าในที่สาธารณะ และให้ชาวบ้านขว้างปาหินใส่จนเสียชีวิต แต่ก่อนตายเธอจะต้องมากราบขอโทษภรรยาของสามีที่เธอลักลอบเป็นชู้ด้วย ในเวลาเสิร์ฟอาหารเจาหญิงไม่ต้องการที่จะรับประทานอาหารที่สำนักพระราชวังได้จัดเตรียมมาให้แต่ต้องการอาหารของพิม พิมพบว่า เจ้าหญิงนั้นแพ้กุ้ง เธอพยายามจะหยิบออกให้แต่เจ้าหญิงเรียกเธอก่อนจึงหยิบออกไปได้แค่ 4 ตัว เมื่อเจ้าหญิงรับประทานแล้วก็เกิดอาการแพ้จึงลุกไปเข้าห้องน้ำ พิมได้เห็นรูปของเธอแล้วเจ้าชายอัลเบิร์ต (สามีของเจ้าหญิงโซเฟีย) ที่ลักลอบเป็นชู้กันเมื่อหันมาก็พบเจ้าหญิงที่ตาแดงกร่ำมองเธอด้วยสายตา พยาบาทเคียดแค้น เมื่อเครื่องถึง สนามบินภูเก็ต ก่อนเข้ารับการรักษาเจ้าหญิงก็มองพิมเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาที่ น่ากลัว อาฆาต ต่อเธอวันต่อมา พิมพบว่าเจ้าหญิงได้สิ้นประชนม์แล้วจากข่าวทางทีวีว่าให้ส่งพระศพกลับภายใน 15 ชม.แต่ไม่สามารถโหลดพระศพลงใต้เครื่องได้จึงต้องให้พระศพวางอยู่บนเครื่อง พิมจึงต้องดูแลพระศพตอนเครื่องขึ้น ศพของเจ้าหญิงก็ได้ไหลมาหาเธอ เธอกลัวมากแล้วศพก็หยุดด้วยความกลัวเธอจึงพยายามเข้าไปอยู่ในห้องของกัปตัน (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) แต่ก็อยู่ได้แค่พักเดียวพอเดินกลับมาก็ไม่พิมก็ไม่เห็นศพอยู่บนที่นั่งแล้ว เธอกลัวมากแล้วความน่ากลัวก็เริ่มมากขึ้นจนทำให้เธอหัวแตก พิมจึงเริ่มบ้าและพยายามขู่ให้กัปตันเอาเครื่องลงและนำขวานไปทุบกับกระจกของเครื่องบินเพื่อจะหนีแต่ไม่สำเร็จเมื่อกัปตันมาจับตัวเธอและมัดไว้อยู่ตรงนั้นของศพเจ้าหญิง เธอร้องไห้และพยายามกล่าวขอโทษ ทันใดนั้นผ้าพันศพของเจ้าหญิงก็หลุดออกมาเห็นเป็น ใบหน้าอันอัปลักษณ์ ตาแดง มาอ้วกต่อหน้าเธอ เธอหันหน้าหนี เมื่อหันมาอีกทีก็ไม่พบศพเจ้าหญิง เธอจึงเริ่มมองหา เมื่อหันกลับมาอีกทีผีเจ้าหญิงก็พุ่งเข้ามาหาเธอ พิมกริ๊ดสุดเสียง...เมื่อถึงที่หมายพนักงานภาคพื้นดินชาวต่างประเทศ 2 คนเข้ามาในเครื่องบินแล้วพบว่าเห็นศพของ พิม คอหักและทำมือลงก้มกราบเท้าของเจ้าหญิงโซเฟีย
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น